Mum-to-Bes’ skin problems

mum to be.jpg

สำหรับคุณแม่แล้ว 9 เดือนแห่งการตั้งครรภ์นับเป็นช่วงเวลาอันแสนวิเศษที่ได้เฝ้าดูพัฒนาการของลูกในท้อง แต่การเปลี่ยนแปลงของร่างกายอาจนำมาซึ่งความลำบากไม่น้อยต่อคุณแม่ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่ส่งผลโดยตรงต่อผิวพรรณ ทั้งปัญหาผิวเปราะบาง ระคายเคือง และอื่น ๆ จนทำให้เกิดความไม่สบายใจและสูญเสียความมั่นใจได้

ทาง Delphini จึงอยากส่งกำลังใจให้กับคุณแม่ทุกคน พร้อมแชร์วิธีรับมือกับปัญหาผิวระหว่างตั้งครรภ์ให้กับ Mummy-to-be กันค่ะ

สำหรับปัญหาผิวที่พบบ่อย ซึ่งก็คือเรื่องปกติ  ระหว่างตั้งครรภ์นั้นได้แก่ 

  • ผิวเปราะบาง:

    จากระดับของฮอร์โมนที่สูงขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ ร่างกายคุณแม่จะมีความ sensitive หรือรู้สึกไวต่อสิ่งรอบตัวมากขึ้น เช่นการดมกลิ่น บางกลิ่นที่คุ้นเคยอย่างกลิ่นน้ำหอมหรืออาหารจานโปรดกลับกลายเป็นแทบจะทนไม่ได้ เช่นเดียวกับผิวระหว่างตั้งครรภ์ที่จะเปราะบางมากกว่าปกติ เพียงการเช็ดผิวปกติก็อาจทำให้เกิดรอยแดง และความไวต่อแสงแดด เพราะอาจเกิดผื่นแดงและการอักเสบได้ง่าย จึงต้องการการดูแลมากเป็นพิเศษ และหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดจัด

  • สิว:

    จากระดับฮอร์โมนที่สูงขึ้นทำให้คุณแม่เป็นสิวได้ง่าย (เหมือนสมัยวัยรุ่นอีกครั้ง) แต่การดูแลรักษาสิวในช่วงนี้ต้องทำอย่างระมัดระวังเพราะสารบางตัวในยารักษาสิวนั้นอาจส่งผลต่อคุณแม่และเด็กในครรภ์ได้ 

  • ผิวคล้ำและการเกิดฝ้า:

    ฮอร์โมนที่สูงขึ้นจะกระตุ้นให้เกิดภาวะการสร้างเม็ดสีมากกว่าปกติ หรือ hyperpigmentation ทำให้ผิวคล้ำขึ้น โดยเฉพาะตามบริเวณข้อพับ รักแร้หรือขาหนีบ และที่ใบหน้า ส่งผลทำให้เกิดฝ้าสีน้ำตาล (melasma) บนใบหน้าที่เรียกว่า mask of pregnancy 

  • ผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น:

    คุณแม่บางคนมีปัญหาผิวแห้งคัน แตกลอกเป็นขุย โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในที่อากาศเย็นหรือในห้องแอร์ นอกจากต้องพยายามดื่มน้ำมากๆ แล้ว คุณแม่อาจสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายที่มีความนุ่ม เพื่อช่วยลดการเสียดสีและความระคายเคืองต่อผิว นอกจากนี้ยังควรมองหาครีมทาผิวและเซรั่มเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น 

  • ผิวแตกลาย:

    การขยายตัวของร่างกายอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะบริเวณท้องและสะโพก ทำให้เนื้อเยื่อใต้ผิวเกิดฉีกขาด ส่งผลให้ผิวแตกลายเป็นแนวเส้นสีแดงที่จะเปลี่ยนเป็นสีเงินจาง ๆ ภายหลังคลอด ซึ่งวิธีที่สามารถป้องกันผิวแตกลายได้นั้น คือการทาครีมบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวในบริเวณดังกล่าว โดยสามารถทาได้ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์และทาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว เพื่อรองรับการขยายตัว 

 

นอกจากนี้ สารเคมีที่คนท้องควรหลีกเลี่ยง มีด้วยกันหลักๆ 2 ชนิด คือ

  1. Retinol หรือ อนุพันธ์วิตามิน A ซึ่งอาจเสี่ยงต่อภาวะคลอดก่อนกำหนด แท้ง หรือความปกติที่ไม่พึงประสงค์ในทารก

  2. Salicylic acid กรด Salicylic การบริโภคโดยการรับประทานหรือในลักษณะของสังเคราะห์ (aspirin) ทำให้เสี่ยงต่อภาวะแท้ง ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด ปัญหาต่อปอดและหัวใจ


ดังนั้นการเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนประกอบในการบำรุงและฟื้นฟูผิวของคุณแม่ ที่ต้องได้รับการห่วงใยเป็นพิเศษ ควรทำควบคู่ไปกับการการรับประทานอาหารประเภทผักและผลไม้ที่มีวิตามินสูงและการพักผ่อนให้เพียงพอ

หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียด เพราะอารมณ์แปรปรวนอาจเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ที่ส่งผลต่อระดับฮอร์โมนให้สูงขึ้นไปอีกได้เช่นกัน