AMERICAN #BLACKLIVESMATTER VS AFRICAN APARTHEID 

การตายของจอร์จ ฟลอยด์ ทำให้เกิดการลุกฮือของคนอเมริกันทั่วประเทศ ที่ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติหรือสีผิวอะไรก็ต่างทวงถามความยุติธรรมของชาวแอฟริกัน-อเมริกันที่ถูกกดขี่ในสังคมมากโดยตลอด แม้อเมริกาจะมีการบังคับใช้กฎหมาย “hate crime” เพื่อคุ้มครองบุคคลที่ถูกทำร้ายจากปัจจัยทางด้านเชื้อชาติ เพศ สีผิว ศาสนา ความพิการ คนจำนวนมากในสังคมอเมริกันยังมีทัศนคติเหยียดสีผิว  ซึ่งลุกลามไปถึงการทำร้ายร่างกายจนทำให้เหยื่อเสียชีวิต

พฤติกรรมของตำรวจอเมริกันถูกเผยแพร่ในสื่อนับไม่ถ้วนและทำให้เกิดการแบ่งแยกระหว่างตำรวจและชุมชนแอฟริกันอเมริกันอย่างเป็นวงกว้าง ก่อนหน้ากรณีของฟลอยด์ กรณีของไมเคิล บราวน์ในปี 2013 ก็ได้ปลุกกระแสต่อต้านการเหยียดสีผิวในระดับประเทศ ในขณะที่นายบราวน์ถูกตำรวจเมืองเฟอร์กูสันยิง 6 นัดเสียชีวิต โดยนายบราวน์ไม่มีอาวุธติดตัวใดๆ เพราะมีคนแจ้งว่าเขาและเพื่อนลักขโมยของจากร้านสะดวกซื้อ ภายหลังศาลตัดสินไม่ตั้งข้อหาใดๆ กับนายตำรวจผู้นั้น

ก่อนหน้าเหตุการณ์อันน่าเศร้า นายบราวน์เพิ่งจบการศึกษาและกำลังจะศึกษาต่อในระดับวิทยาลัย พ่อแม่ของเขากล่าวว่าไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะต้องจัดงานศพให้ลูกตัวเอง เพราะครอบครัวยังไม่ได้ฉลองการเรียนจบของลูกเลย คนใกล้ตัวนายบราวน์พูดถึงเขาในฐานะเพื่อนตัวใหญ่ที่แสนจะใจดีและมีอารมณ์ขัน 

การแบ่งแยกชนชั้นและสีผิวไม่ได้มีแค่ในสหรัฐอเมริกาหรือประเทศตะวันตกเท่านั้น ประเทศแอฟริกาใต้ถูกปกครองภายใต้ระบอบการปกครองที่ที่เรียกว่า apartheid หรือ นโยบายการแบ่งแยกสีผิว มาเป็นเวลา 40 กว่าปี ภายใต้การปกครองรูปแบบนี้ การแต่งงานระหว่างคนผิวดำ (black) และคนผิวขาวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และเด็กผิวสี (colored) ที่เกิดมาจากพฤติกรรมต้องห้ามต้องอยู่อย่างหลบซ่อน เขตที่อยู่อาศัยในเมืองถูกแบ่งแยกตามสีผิว คนผิวดำไม่มีสิทธิ์ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ไม่สามารถสมัครงานระดับ white collar อีกทั้งยังมีเรื่องของวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ในครอบครัวของคนผิวดำ 

นโยบาย apartheid ถูกยกเลิกในปี 1990 พร้อมกับการปล่อยตัวของ เนลสัน แมนเดลา อดีตประธานาธิบดีผิวดำคนแรกของประเทศแอฟริกาใต้ ที่เคยถูกจองจำเป็นเวลา 27 ปี นายแมนเดลาถูกคุมขังและตัดสินจำคุกตลอดชีวิตเพราะเป็นตัวแทนพรรคร่วมประท้วงต่อต้านนโยบายการแบ่งแยกสีผิว

..“During my lifetime I have dedicated myself to this struggle of the African people. I have fought against white domination, and I have fought against black domination. I have cherished the ideal of a democratic and free society in which all persons live together in harmony and with equal opportunities. It is an ideal which I hope to live for and to achieve. But if needs be, it is an ideal for which I am prepared to die” – Nelson Mandela